ในยุคที่เทคโนโลยีและโลกดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรับสมัครงานก็ไม่พ้นจากการพัฒนานี้ เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในกระบวนการสรรหาบุคลากร ทำให้วิธีการรับสมัครงานในปัจจุบันมีความหลากหลายและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งนายจ้างที่ต้องการหาผู้สมัครที่ดีที่สุดต้องปรับตัวให้ทันกับแนวโน้มใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในกระบวนการรับสมัครงาน เพื่อให้การหาคนมาร่วมบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
1.การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอ (Online Interview)
การสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอเป็นหนึ่งในแนวโน้มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้การทำงานจากที่บ้านและการสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอกลายเป็นเรื่องปกติ นายจ้างสามารถสัมภาษณ์ผู้สมัครจากทั่วทุกมุมโลกได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาในสถานที่จริง การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกทั้งยังสะดวกในการจัดตารางเวลา ซึ่งทำให้กระบวนการรับสมัครงานมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.การใช้ AI ในการคัดกรองเรซูเม่
การใช้เทคโนโลยี AI ในการคัดกรองเรซูเม่เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผู้สมัครจำนวนมาก เทคโนโลยี AI สามารถช่วยคัดกรองเรซูเม่เบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว โดย AI จะวิเคราะห์ข้อมูลในเรซูเม่เพื่อหาความตรงกับความต้องการของตำแหน่งงานที่เปิดรับ เช่น การค้นหาทักษะที่จำเป็นหรือประสบการณ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการมองข้ามคุณสมบัติที่สำคัญของผู้สมัคร
3.การพัฒนาโปรไฟล์ออนไลน์
ในยุคดิจิทัล การสร้างโปรไฟล์ออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้สมัครงาน และถือเป็นเครื่องมือที่นายจ้างใช้ในการสรรหาผู้สมัครที่มีศักยภาพ เว็บไซต์อย่าง LinkedIn เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้สมัครสามารถแสดงประวัติการทำงานและทักษะต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน นายจ้างสามารถใช้โปรไฟล์ออนไลน์เหล่านี้ในการค้นหาผู้สมัครที่เหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้สมัครส่งเรซูเม่มาเพียงอย่างเดียว การสร้างโปรไฟล์ที่มีข้อมูลครบถ้วนจะช่วยให้ผู้สมัครมีโอกาสถูกพบเจอและได้รับการพิจารณามากขึ้น
4.การใช้เครื่องมือประเมินทักษะออนไลน์
การใช้เครื่องมือประเมินทักษะออนไลน์ที่สามารถทดสอบความสามารถในด้านต่าง ๆ ของผู้สมัครเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังเติบโต เช่น การทดสอบภาษา การทดสอบทักษะคอมพิวเตอร์ หรือการทดสอบสมรรถภาพทางด้านอื่น ๆ การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นายจ้างสามารถประเมินทักษะของผู้สมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพตรงกับความต้องการของตำแหน่งงาน
5.การสร้างประสบการณ์การสมัครงานที่ดี (Candidate Experience)
ในยุคดิจิทัล ผู้สมัครงานคาดหวังประสบการณ์ที่ดีในทุกขั้นตอนของการสมัครงาน ตั้งแต่การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานจนถึงการสัมภาษณ์ นายจ้างควรให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร เช่น การตอบกลับเร็ว การแจ้งผลสัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ อย่างชัดเจน การสร้างประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้บริษัทของคุณได้รับการยอมรับจากผู้สมัครและเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพ
6.การทำงานจากที่บ้าน (Remote Work)
การทำงานจากที่บ้าน (Remote Work) กลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในยุคดิจิทัล หลายบริษัทเริ่มเปิดรับงานที่สามารถทำจากที่บ้านได้เพื่อขยายโอกาสในการหาผู้สมัครที่มีความสามารถจากทั่วโลก การเปิดโอกาสให้ทำงานจากที่บ้านสามารถช่วยให้บริษัทเข้าถึงผู้สมัครที่มีความสามารถในพื้นที่ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
7.การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data Analytics)
การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการรับสมัครงานและประสิทธิภาพของแคมเปญการสรรหากำลังได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับกลยุทธ์การรับสมัครงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของผู้สมัครที่ดีที่สุด หรือการวิเคราะห์เวลาที่ใช้ในกระบวนการคัดเลือก
การรับสมัครงานในยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี AI, การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอ หรือการใช้เครื่องมือประเมินทักษะออนไลน์ ที่สำคัญที่สุดคือ นายจ้างควรปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อให้สามารถค้นหาผู้สมัครที่ดีที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัครในทุกขั้นตอนของการสมัครงาน การใช้เทคโนโลยีจะช่วยให้กระบวนการรับสมัครงานเป็นไปอย่างราบรื่นและตอบโจทย์ทั้งบริษัทและผู้สมัครมากที่สุด